admin

Home/admin

About admin

This author has not yet filled in any details.
So far admin has created 48 blog entries.

การติดต่อสัมพันธ์กันครั้งแรกระหว่างสยามกับต้าชิง หรือจีนราชวงศ์ชิง

2018-06-25T07:24:53+00:00

 "สยาม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของมณฑลยูนนาน ทางตะวันออกของพม่า ทางตะวันตกของเวียดนาม ทางใต้ของอ่าวป๋อไห่ รัชศกซุ่นจื้อปีที่ 9 (ค.ศ.1652 ตรงกับ พ.ศ.2195 ในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา) เดือน 12 สยามส่งทูตมาขอจิ้มก้อง ราชสำนักพระราชทานตราประทับ(印)ใหม่ พร้อมทั้งพระราชสาส์นแต่งตั้งจากฮ่องเต้(敕) สร้างสัมพันธไมตรีต่อกัน และยอมรับฐานะของสยาม ตั้งแต่นั้นสยามก็ส่งทูตมาจิ้มก้องสม่ำเสมอมิได้ขาด" (暹羅,在雲南之南,緬甸之東,越南之西,南瀕海灣。順治九年十二月,暹羅遣使請貢,並換給印、敕、勘合,允之。自是奉貢不絕。) ข้อมูลว่าด้วยการติดต่อสัมพันธ์กันครั้งแรกระหว่างสยามกับต้าชิง หรือจีนราชวงศ์ชิง จากพงศาวดารราชวงศ์ชิง (清史稿) เล่มที่ 528 บทว่าด้วยสยาม (暹羅) ภาพประกอบ : จักรพรรดิชิงซื่อจู่ (清世祖) หรือฮ่องเต้ซุ่นจื้อ (顺治皇帝 ค.ศ.1638 - 1661 ครองราชย์ ค.ศ.1643 - 1661) ฮ่องเต้รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์ชิง (清朝) (หากนับตั้งแต่ฮ่องเต้ไท่จู่ หรือนู่เอ่อฮาซื่อ แต่หากนับจากหวงไท่จี๋จะเป็นรัชกาลที่ 2) เป็นฮ่องเต้องค์แรกของราชวงศ์ชิงที่ได้เสด็จเข้าด่านจากแมนจูเรียมาประทับเป็นการถาวรที่พระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่ง และเป็นฮ่องเต้ต้าชิงพระองค์แรกที่มีสัมพันธไมตรีกับสยาม Worapong Keddit

การติดต่อสัมพันธ์กันครั้งแรกระหว่างสยามกับต้าชิง หรือจีนราชวงศ์ชิง2018-06-25T07:24:53+00:00

“เมื่อจอหงวนแห่งอันนัมตะลุยกรุงปารีส”

2020-10-08T15:46:40+00:00

เวียดนาม เป็นรัฐหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับอิทธิพลจากจีนทั้งในด้านการเมืองการปกครอง ปรัชญา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีเข้ามาใช้ในการปกครองรัฐอย่างเข้มข้น โดยหนึ่งกลไกสำคัญที่เวียดนามรับเข้ามาจากจีนเพื่อใช้ในการปกครองรัฐ นั่นคือ ระบบการสอบเข้ารับราชการ(科举) หรือการสอบจอหงวนนั่นเอง […]

“เมื่อจอหงวนแห่งอันนัมตะลุยกรุงปารีส”2020-10-08T15:46:40+00:00

Kuthodaw Pagoda

2018-06-25T06:52:53+00:00

Each of the hundreds of marble tablets that surround Myanmar's Kuthodaw Pagoda make up a page of Buddhist teachings. Take a walking tour through the largest book in the world.

Kuthodaw Pagoda2018-06-25T06:52:53+00:00

Paw Daw Mu Pagoda ผ่องว์ด่อว์มูเจดีย์เมืองมะริด

2018-06-25T05:52:34+00:00

Paw Daw Mu Pagoda ผ่องว์ด่อว์มูเจดีย์เมืองมะริด กับตำนานเล่าขานของโพโพอาว ที่อธิฐานบูรณะเจดีย์ ในช่วงสงครามโลก ช่วงเย็นค่ำ ชาวบ้านเป็นจำนวนมากจะมานั่งสมาธิ สวดมนต์ที่เจดีย์นี้

Paw Daw Mu Pagoda ผ่องว์ด่อว์มูเจดีย์เมืองมะริด2018-06-25T05:52:34+00:00

ไทใหญ่ ที่ จังหวัดนครพนม

2018-06-24T10:44:22+00:00

ไทใหญ่ ที่ จังหวัดนครพนม เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ ที่ในสมัยหนึ่ง คนในเขต อำเภอเมือง ของ จังหวัดนครพนม บอกตัวเองว่า เป็นคนไทใหญ่  เพราะคนทั้งหมู่บ้านตั้งแต่ปราชญ์ท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ก็บอกว่าเขาอพยพเดินทางมาจากพม่า ลงมาตามแม่นำโขง ตั้งถิ่นฐานแถบเมืองลาว ระยะหนึ่งก่อนจะเข้ามาอยู่เมืองไทย ชาวบ้านในหมู่บ้านที่นครพนม เขาก็เชื่อว่าเขาคือคนไทใหญ่ เมื่อมาอ่านเวปไซค์ และ ประวัติศาสตร์ไทใหญ่ ทำให้เชื่อสนิทใจว่า พี่น้อง ใน บ้านฟึ่ง บ้านหนองบัว ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ที่นับถือผีบรรพบุรุษ "เจ้าผ้าขาว" เป็นชาวไทใหญ่ จริง อยากให้พี่น้องชาวไทใหญ่ ไปสืบข่าวดูนะ การล่มสลายของอาณาจักกรน่านเจ้านั้น ทำให้ชนชาติไตต้องถอยร่นลงไปทางใต้ และ ทิศตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง ประกอบด้วย หลายกลุ่ม กลุ่มไตอ่อน กลุ่มนี้อพยพลงไปทางตอนใต้ ได้สร้างเมืองพะยาว (พูกามยาว)ขึ้นก่อน หลังจากนั้นก็ได้สร้างอาณาจักรเงินยางเชียงแสน บางกลุ่มกระจายไปสร้างอาณาจักรโคตรบูรณ์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ เมืองนครพนม อีกพวกหนึ่งได้สร้างเมืองหลวงสึ่งเคอไต หรือ กรุงสุโขทัย ขึ้น ในช่วงที่ขุนรามคำแหง สร้างอาณาจักรสึ่งเคอไต นี่เอง ไตพวกที่สร้างเมืองเชียงรายคือพ่อขุนเมงราย กับพ่อขุนงำเมือง ได้เชิญพ่อขุนรามคำแหง มาร่วมหาทำเลสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นมา จนกลายมาเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา ในเวลาต่อมา

ไทใหญ่ ที่ จังหวัดนครพนม2018-06-24T10:44:22+00:00

เยาวชนมอญร้อง ดอว์ซูจี ยกเลิกใช้คำนำหน้าภาษาพม่านำชื่อชาวมอญ อ้างเพื่อให้เกียรติคนชาติพันธุ์

2020-10-08T15:48:21+00:00

ระหว่างที่นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐได้เดินทางไปเยือนรัฐมอญ เพื่อพูดคุยหัวข้อประเด็นการเจรจาสันติภาพ ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับกลุ่มเยาวชนมอญและประชาชนชาวมอญที่มหาวิทยาลัยมะละแหม่ง รัฐมอญ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ ทางกลุ่มเยาวชนมอญได้ร้องขอให้นางอองซาน ซูจี พิจารณายกเลิกนำภาษาพม่า เช่น อู และ ดอว์ เป็นต้น ซึ่งมีความหมายว่า อาหรือลุง และน้าหรือป้า นำหน้าชื่อภาษามอญในเอกสารที่ทางราชการออกให้ โดยเยาวชนอ้างเป็นความขัดแย้งทางวัฒนธรรมที่ไม่ได้รับการแก้ไข้มาเป็นเวลานาน เราต้องการที่จะให้ใช้คำว่า “Mi” นำหน้าชื่อเด็กผู้หญิงชาวมอญ และ”Mehm” ใช้แทนเด็กผู้ชาย นี่เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา เมื่อเราไปสำนักงานทะเบียนแห่งชาติ ก็เกิดความขัดแย้งเพราะเจ้าหน้าที่ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ มีหง่วยเล จากมูลนิธิ Cetana Development Foundation กล่าว โดย มีหง่วยเล ยังอธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่างผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอย่าง นางมี ลาวี ห่าน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2015 ที่คณะกรรมการเลือกตั้งขอให้ผู้สมัครรายนี้ต้องใช้คำว่า “ดอว์” ในภาษาพม่า นำหน้าชื่อของเธอ ซึ่งเป็นชื่อภาษามอญ โดย มีหง่วยเล ได้ร้องขอให้นางอองซาน ซูจี ป้องกันอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม นางซูจีได้อธิบายแย้งว่า คนทั่วไปไม่ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมมอญ โดยเชื่อว่า ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะโจมตีวัฒนธรรมมอญ “พวกเขาพูดตามที่พวกเขาเข้าใจ บางคนเรียกรัฐมนตรีกระทรวงฝ่ายชาติพันธุ์ว่า อูหน่ายเท็ตลิน นั่นเป็นวิธีแสดงออกถึงความเคารพ ไม่ได้ต้องการให้เขาอับอายแต่อย่างใด” นางซูจี ยังกล่าวว่า คนมอญสามารถบอกไม่ต้องใส่คำนำหน้าเป็นภาษาพม่าในการเขียนทั่วๆ ไปได้ แต่หากเป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ทางการกำหนดไว้ ส่วนนายอูเอมิ้นโก่ รองเลขาธิการกระทรวงฝ่ายชาติพันธุ์เผยว่า ทางกระทรวงแรงงาน การอพยพและประชากรได้จัดทำคู่มือแนะนำวิธีเขียนชื่อของคนกลุ่มชาติพันธุ์เอาไว้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คนกลุ่มชาติพันธุ์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความรู้สึกว่า พวกเขาถูกยัดเยียดความเป็นพม่าให้เมื่อต้องใส่คำนำหน้าภาษาพม่าอย่างคำว่า อูและดอว์ ที่มา Mon News Agency แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=19124 .

เยาวชนมอญร้อง ดอว์ซูจี ยกเลิกใช้คำนำหน้าภาษาพม่านำชื่อชาวมอญ อ้างเพื่อให้เกียรติคนชาติพันธุ์2020-10-08T15:48:21+00:00

การตีกลองก้นยาวก้าลาย ในสมัยก่อน

2018-06-24T10:36:25+00:00

การตีกลองก้นยาวก้าลาย ในสมัยก่อน จะใช้คนตี มอง (ฆ้อง)ยืนเรียงแถว ไม่เหมือนสมัยใหม่ ที่ใช้คานหาม แต่ของพี่น้องชาติพันธ์ปะโอยังคงใช้คนยืนเรียงแถวตีอยู่นะ แต่ของชาติพันธ์ไตเราหาดูยากแล้วละ นานๆจะเห็นสักครั้ง เป็นภาพที่เก่าแก่หาดูได้ยากสักหน่อยครับ แต่มีเสน่ห์จัง

การตีกลองก้นยาวก้าลาย ในสมัยก่อน2018-06-24T10:36:25+00:00

เมืองลางเคอ รัฐฉาน ฤดูร้อนจะร้อนกว่าเมืองอื่นๆในรัฐฉาน

2018-06-24T10:26:43+00:00

เมืองลางเคอ รัฐฉาน ฤดูร้อนจะร้อนกว่าเมืองอื่นๆในรัฐฉาน แต่ฤดูฝนวิวสวยๆก็มีมากมาย มนเสน่ห์ของเมืองนี้คือเป็นเมืองเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นถั่วเน่า งาดำ ยาเส้น ชากเก และอื่นๆอีกมากมาย สินค้าสมัยก่อนคนหนุ่มสาวจะแบกหามหรือใส่หลังม้ามาขายที่เมืองแม่ฮ่องสอนของไทย โดยการเดินทางแบบค้างคืนในป่า ต้องพกข้าวสาร อาหาร น้ำมาเอง โดยใช้เวลาเดินทางโดยเท้าประมาณ 3-4 วัน แต่ปัจจุบันจากแม่ฮ่องสอนไปลางเคอใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชม.ก็ถึงแล้วโดยมีถนนลาดยางบางพื้นที่ในตะวันออกแม่น้ำสาละวิน แต่ฝั่งตะวันตกเป็นถนนลาดยางทั้งหมด  

เมืองลางเคอ รัฐฉาน ฤดูร้อนจะร้อนกว่าเมืองอื่นๆในรัฐฉาน2018-06-24T10:26:43+00:00
Go to Top