ระหว่างที่นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐได้เดินทางไปเยือนรัฐมอญ เพื่อพูดคุยหัวข้อประเด็นการเจรจาสันติภาพ ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับกลุ่มเยาวชนมอญและประชาชนชาวมอญที่มหาวิทยาลัยมะละแหม่ง รัฐมอญ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ ทางกลุ่มเยาวชนมอญได้ร้องขอให้นางอองซาน ซูจี พิจารณายกเลิกนำภาษาพม่า เช่น อู และ ดอว์ เป็นต้น ซึ่งมีความหมายว่า อาหรือลุง และน้าหรือป้า นำหน้าชื่อภาษามอญในเอกสารที่ทางราชการออกให้ โดยเยาวชนอ้างเป็นความขัดแย้งทางวัฒนธรรมที่ไม่ได้รับการแก้ไข้มาเป็นเวลานาน เราต้องการที่จะให้ใช้คำว่า “Mi” นำหน้าชื่อเด็กผู้หญิงชาวมอญ และ”Mehm” ใช้แทนเด็กผู้ชาย นี่เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา เมื่อเราไปสำนักงานทะเบียนแห่งชาติ ก็เกิดความขัดแย้งเพราะเจ้าหน้าที่ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ มีหง่วยเล จากมูลนิธิ Cetana Development Foundation กล่าว โดย มีหง่วยเล ยังอธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่างผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอย่าง นางมี ลาวี ห่าน

ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2015 ที่คณะกรรมการเลือกตั้งขอให้ผู้สมัครรายนี้ต้องใช้คำว่า “ดอว์” ในภาษาพม่า นำหน้าชื่อของเธอ ซึ่งเป็นชื่อภาษามอญ โดย มีหง่วยเล ได้ร้องขอให้นางอองซาน ซูจี ป้องกันอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม นางซูจีได้อธิบายแย้งว่า คนทั่วไปไม่ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมมอญ โดยเชื่อว่า ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะโจมตีวัฒนธรรมมอญ “พวกเขาพูดตามที่พวกเขาเข้าใจ บางคนเรียกรัฐมนตรีกระทรวงฝ่ายชาติพันธุ์ว่า อูหน่ายเท็ตลิน นั่นเป็นวิธีแสดงออกถึงความเคารพ ไม่ได้ต้องการให้เขาอับอายแต่อย่างใด” นางซูจี ยังกล่าวว่า คนมอญสามารถบอกไม่ต้องใส่คำนำหน้าเป็นภาษาพม่าในการเขียนทั่วๆ ไปได้ แต่หากเป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ทางการกำหนดไว้ ส่วนนายอูเอมิ้นโก่ รองเลขาธิการกระทรวงฝ่ายชาติพันธุ์เผยว่า ทางกระทรวงแรงงาน การอพยพและประชากรได้จัดทำคู่มือแนะนำวิธีเขียนชื่อของคนกลุ่มชาติพันธุ์เอาไว้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คนกลุ่มชาติพันธุ์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความรู้สึกว่า พวกเขาถูกยัดเยียดความเป็นพม่าให้เมื่อต้องใส่คำนำหน้าภาษาพม่าอย่างคำว่า อูและดอว์ ที่มา Mon News Agency แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ

สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=19124 .