2563

Home/2563

จักรพรรดินีนาม เฟือง: เจ้าหญิงองค์สุดท้าย…ของเวียดนาม

2020-10-08T15:42:20+00:00

#ประวัติศาสตร์จากประเทศเพื่อนบ้าน ขอนำเสนอ เจ้าหญิงองค์สุดท้าย...ของเวียดนาม (จักรพรรดินีนาม เฟือง) ภาพประกอบ: ทรงฉายในพระราชพิธีอภิเษกสมรส ปี 2477 โดย: Nguyen Dynasty photographer --------------- ประวัติ จักรพรรดินีนาม เฟือง พระนามาภิไธยเดิม เหงียน หืว ถิ ลาน ศาสนนาม มารี-เตแรซ เป็นพระอัครมเหสีในจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของเวียดนาม เป็นจักรพรรดินีพระองค์ที่สองและพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์เหงียน จักรพรรดินีนาม เฟือง มีพระนามาภิไธยเดิมว่า มารี-เตแรซ เหงียน หืว ถิ ลาน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2457 ณ เมืองก่อกง อันเป็นเมืองแถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ขึ้นกับโคชินไชนา หนึ่งในสามดินแดนอาณานิคมอินโดจีนของฝรั่งเศส อภิษกสมรส วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2477 ข่าวการหมั้นของเหงียน หืว ถิ ลาน กับพระเจ้าบ๋าว ดั่ย กษัตริย์แห่งอันนัม ได้เผยแพร่ออกไป พระเจ้าบ๋าว ดั่ย ได้กล่าวว่า "พระราชินีในอนาคตได้รับการเลี้ยงดูเหมือนเราในฝรั่งเศส เป็นการรวมระหว่างบุคลิกของนางคือ ความสง่าแห่งตะวันตกและเสน่ห์แห่งตะวันออก เราได้มีโอกาสพบนาง เชื่อว่านางเป็นผู้ที่ควรสรรเสริญเพื่อเป็นมิตรที่ดีของเราและผู้เท่าเทียมกับเรา เราแน่ใจในจริยวัตรและแบบอย่างที่ดี เราควรยกย่องนางเป็น สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของจักรวรรดิ (First Woman of the Empire)" ลังจากพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการที่พระราชวังฤดูร้อนในเมืองด่าหลัต พระเจ้าบ๋าว ดั่ย ได้อภิเษกสมรสกับเหงียน หืว ถิ ลาน ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2477 ที่เมืองเว้ พระราชพิธีจัดขึ้นตามหลักพระพุทธศาสนา ทำให้ผู้นำคาทอลิกของครอบครัวฝ่ายหญิงได้โต้เถียงอย่างรุนแรง คนในประเทศจึงไม่พอใจการเลื่อมใสในศาสนาของเจ้าสาว บางคนกล่าวว่าการสมรสนี้ "เป็นการจัดตามกลลวงของฝรั่งเศส" หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ได้เขียนว่า "ทำให้เกิดความไม่พอใจไปทั่ว" ในประเทศนี้ เหงียน หืว ถิ ลานปฏิเสธที่จะยอมละทิ้งคาทอลิกและได้ร้องอุทธรณ์ถึง [...]

จักรพรรดินีนาม เฟือง: เจ้าหญิงองค์สุดท้าย…ของเวียดนาม2020-10-08T15:42:20+00:00

วิเคราะห์แหล่งทุนวิจัย

2020-10-07T05:27:32+00:00

วิเคราะห์แหล่งทุนวิจัย  โดย ดร.พระมหาเกียงศักดิ์ อินทปัญโญ วัดสุทธิวราราม กรุงเทพ การเขียนข้อเสนอโครงกาวิจัยเพื่อขอรับทุนวิจัยจากหน่วยให้ทุนวิจัยต่างๆ ผู้วิจัยจำเป็นต้องวิเคราะห์ ลักษณะผู้ให้ทุน กรอบการวิจัยที่ผู้ให้ทุนประกาศรับ และสำรวจความเชี่ยวชาญของผู้วิจัยที่จะสอดคล้องกับ กรอบวิจัยที่แหล่งทุนวิจัยนั้นต้องการ วันนี้ขอนำเสนอ PMU หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) แหล่งทุนนี้ เน้นการวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกันคิด วางแผน กำหนด ลงมือดำเนินการและการวัดผลในกิจกรรมเพื่อการ พัฒนาอย่างมีกลยุทธ์ด้านการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ แพลตฟอร์มที่น่าสนใจ คือแพลตฟอร์มที่ 3 ซึ่งเป็นการวิจัยและ นวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในโปรแกรมที่ 10 ยกระดับความสามารถการแข่งขันและ วางรากฐานทางเศรษฐกิจ จากการสำรวจกรอบประเด็นวิจัยที่ บพข ประกาศกรอบนโยบาย ซึ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกรอบวิจัยที่นักวิจัยของ มจร. พอจะนำมากำหนดเป็นประเด็นเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย เพื่อเบียดตัวเองให้ได้รับทุนวิจัยจาก PMU นี้ มีประเด็นน่าสนใจดังนี้ กรอบวิจัยที่ 5. การท่องเที่ยวและ เศรษฐกิจสร้างสรรค์: การพัฒนาแหล่ง ท่องเที่ยวและ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ ฐานราก 5.1 พัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสินค้าสร้างสรรค์หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เพื่อพัฒนา สินค้าสร้างสรรค 5.2 พัฒนารูปแบบธุรกิจ เช่น Creative Startups และ Social Enterprise 5.3 พัฒนาการท่องเที่ยวท้องถิ่น การท่องเที่ยวเมืองรอง และย่านสร้างสรรค์ 5.4 การศึกษาด้านการตลาด โดยการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์การท่องเที่ยว 5.5 การวิเคราะห์จัดกลุ่มนักท่องเที่ยว และการกำหนดกลยุทธ์การตลาดการ ท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะ 5.6 พัฒนาระบบมาตรฐานการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน 5.7 พัฒนาระบบบัญชีต้นทุนทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว ที่สำคัญ กรอบวิจัยที่ 6. การท่องเที่ยวเชิง สุขภาพ (Wellness tourism) ประกอบด้วย - การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) - การท่องเที่ยวบริการสุขภาพ (Spa & Wellness Tourism) การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) - [...]

วิเคราะห์แหล่งทุนวิจัย2020-10-07T05:27:32+00:00

“เมื่อจอหงวนแห่งอันนัมตะลุยกรุงปารีส”

2020-10-08T15:46:40+00:00

เวียดนาม เป็นรัฐหนึ่งเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับอิทธิพลจากจีนทั้งในด้านการเมืองการปกครอง ปรัชญา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีเข้ามาใช้ในการปกครองรัฐอย่างเข้มข้น โดยหนึ่งกลไกสำคัญที่เวียดนามรับเข้ามาจากจีนเพื่อใช้ในการปกครองรัฐ นั่นคือ ระบบการสอบเข้ารับราชการ(科举) หรือการสอบจอหงวนนั่นเอง […]

“เมื่อจอหงวนแห่งอันนัมตะลุยกรุงปารีส”2020-10-08T15:46:40+00:00

เยาวชนมอญร้อง ดอว์ซูจี ยกเลิกใช้คำนำหน้าภาษาพม่านำชื่อชาวมอญ อ้างเพื่อให้เกียรติคนชาติพันธุ์

2020-10-08T15:48:21+00:00

ระหว่างที่นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐได้เดินทางไปเยือนรัฐมอญ เพื่อพูดคุยหัวข้อประเด็นการเจรจาสันติภาพ ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับกลุ่มเยาวชนมอญและประชาชนชาวมอญที่มหาวิทยาลัยมะละแหม่ง รัฐมอญ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ ทางกลุ่มเยาวชนมอญได้ร้องขอให้นางอองซาน ซูจี พิจารณายกเลิกนำภาษาพม่า เช่น อู และ ดอว์ เป็นต้น ซึ่งมีความหมายว่า อาหรือลุง และน้าหรือป้า นำหน้าชื่อภาษามอญในเอกสารที่ทางราชการออกให้ โดยเยาวชนอ้างเป็นความขัดแย้งทางวัฒนธรรมที่ไม่ได้รับการแก้ไข้มาเป็นเวลานาน เราต้องการที่จะให้ใช้คำว่า “Mi” นำหน้าชื่อเด็กผู้หญิงชาวมอญ และ”Mehm” ใช้แทนเด็กผู้ชาย นี่เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา เมื่อเราไปสำนักงานทะเบียนแห่งชาติ ก็เกิดความขัดแย้งเพราะเจ้าหน้าที่ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ มีหง่วยเล จากมูลนิธิ Cetana Development Foundation กล่าว โดย มีหง่วยเล ยังอธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่างผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอย่าง นางมี ลาวี ห่าน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2015 ที่คณะกรรมการเลือกตั้งขอให้ผู้สมัครรายนี้ต้องใช้คำว่า “ดอว์” ในภาษาพม่า นำหน้าชื่อของเธอ ซึ่งเป็นชื่อภาษามอญ โดย มีหง่วยเล ได้ร้องขอให้นางอองซาน ซูจี ป้องกันอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม นางซูจีได้อธิบายแย้งว่า คนทั่วไปไม่ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมมอญ โดยเชื่อว่า ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะโจมตีวัฒนธรรมมอญ “พวกเขาพูดตามที่พวกเขาเข้าใจ บางคนเรียกรัฐมนตรีกระทรวงฝ่ายชาติพันธุ์ว่า อูหน่ายเท็ตลิน นั่นเป็นวิธีแสดงออกถึงความเคารพ ไม่ได้ต้องการให้เขาอับอายแต่อย่างใด” นางซูจี ยังกล่าวว่า คนมอญสามารถบอกไม่ต้องใส่คำนำหน้าเป็นภาษาพม่าในการเขียนทั่วๆ ไปได้ แต่หากเป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ทางการกำหนดไว้ ส่วนนายอูเอมิ้นโก่ รองเลขาธิการกระทรวงฝ่ายชาติพันธุ์เผยว่า ทางกระทรวงแรงงาน การอพยพและประชากรได้จัดทำคู่มือแนะนำวิธีเขียนชื่อของคนกลุ่มชาติพันธุ์เอาไว้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คนกลุ่มชาติพันธุ์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความรู้สึกว่า พวกเขาถูกยัดเยียดความเป็นพม่าให้เมื่อต้องใส่คำนำหน้าภาษาพม่าอย่างคำว่า อูและดอว์ ที่มา Mon News Agency แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=19124 .

เยาวชนมอญร้อง ดอว์ซูจี ยกเลิกใช้คำนำหน้าภาษาพม่านำชื่อชาวมอญ อ้างเพื่อให้เกียรติคนชาติพันธุ์2020-10-08T15:48:21+00:00
Go to Top