มจร หารือรัฐบาลลาว ส่งเสริมการศึกษาเยาวชนอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียนให้มั่นคง ยั่งยืน
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 พระราชวัชรสารบัณฑิต,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา นำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เข้าร่วมประชุมหารือความร่วมมือการจัดทำความร่วมมือส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมลาว-ไทย ณ สภาแห่งชาติลาว นครหลวงเวียงจันทร์
ในการนี้ พณฯ สอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พณฯ อรุณชัย สุนนะราช รัฐมนตรีประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนคณะรัฐบาลและกองการศึกษาและคณะสงฆ์ลาว ต้อนรับคณะผูับริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระราชวัชรสารบัณฑิต ได้มอบหมายให้ พระมหาบัณฑิต ปณฺฑิตเมธี คณบดีคณะครุศาสตร์ เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการฝ่ายประเทศไทย ประกอบด้วย พระครูสุธีกิตติบัณฑิต,รศ.ดร. , พระมหาขวัญชัย ปุตฺตวิเสโส และพระปลัดอภิเชษฐ์ สุภทฺรวาที เป็นผู้แทนคณะกรรมการจากฝ่ายมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
โอกาสนี้ สภาแห่งชาติลาวได้มอบเหรียญรางวัลยกย่องบุคคลแห่งปี ในโอกาสครบรอบ 60 ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ จากสภาแห่งชาติลาวแด่ พระราชวัชรสารบัณฑิต เพื่อเชิดชูเกียรติและเป็นที่ระลึกในการสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและมิตรภาพสองประเทศไทย
จากนั้น คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เดินทางไปร่วมประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการการศึกษาสงฆ์ลาว โดยมอบหมายจากศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ และกองการศาสนาได้ร่วมพิจารณาและจัดทำข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน ณ สภาแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ที่ประชุมสองฝ่ายได้เห็นร่วมกันในการจัดทำข้อตกลงโดยผู้บริหารและคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกการประชุมผลการหารือการประชุมร่วมกันสองฝ่าย โดยมีมติที่จะสนับสนุนและขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการศึกษาลาวและไทย ภายใต้กรอบความร่วมมือซึ่งที่ประชุมจะร่วมกันขับเคลื่อนให้บรรลุเป็นบันทึกข้อตกลงระหว่างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและกองทุนช่วยเหลือสังคมแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชาลาว
ด้าน ดร. วิภาวรรณ พรมวิหาร ประธานกองทุนช่วยเหลือสังคมแห่งชาติ ได้กล่าวว่าการหารือร่วมกันครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการร่วมกันระหว่าง สปป ลาวและมหาวิทยาลัย ที่มีความเห็นร่วมกันในการส่งเสริมเยาวชน การศึกษาและการวิจัยในระดับประเทศเพื่อสร้างสังคมและประชาชนของทั้งสองประเทศด้วยมิตรสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนาน
ด้าน พระครูสุธีกิตติบัณฑิต,รศ.ดร. ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยจะสนับสนุนกิจกรรมและโครงการภายใต้ความร่วมมือนี้อย่างเต็มที่โดยสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์จะสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนงานวิจัยและการวิจัยร่วมกันของนักวิชาการพระพุทธศาสนาของทั้งสองประเทศ
พระมหาบัณฑิต ปณฺฑิตเมธี, ดร. คณบดีคณะครุศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายหารือร่วมกันในครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดยมหาวิทยาลัยจะกำหนดแผนงานและโครงการเพื่อกำหนดทิศทางการทำงานอย่างเป็นระบบ ในอนาคตจะขยายความร่วมมือไปยังเครือข่ายโรงเรียนพระปริยัติธรรมระดับมัธยมศึกษาให้คลอบคลุม เข้าถึง เพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษา chance of opportunity ให้กับเยาวชนและพระภิกษุสงฆ์ลาวที่ต้องการศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ด้าน พระปลัดอภิเชษฐ์ สุภทฺรวาที ผู้อำนวยการส่วนงานบริหหาร ศูนย์อาเซียนศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมร่วมกันทั้งสองวันที่ผ่านมา ที่ประชุมได้ข้อสรุปชัดเจนและเห็นเป้าหมายร่วมกันที่จะส่งเสริมการศึกษาและความร่วมมือการพัฒนาด้านต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเยาวชนและพระพุทธศาสนา เพราะทั้งสองประเทศมีจุดเเข็งสำคัญคือวัฒนธรรมและพระพุทธศาสนา การส่งเสริมความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการสร้างเครือข่ายพระพุทธศาสนาลุ่มน้ำโขงให้เข้มเเข็งยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ข้อตกลงยังอยู่ในขั้นตอนการทำงานร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายจะตั้งคณะกรรมการซึ่งอยู่ในฐานะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายดำเนินการร่วมกันโดยคณะกรรมการจะพิจารณาและข้อเสนอของแต่ละฝ่ายจัดทำเป็นข้อตกลงร่วมกัน หลังจากที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและสภาแห่งชาติลาวได้พิจารณาร่างข้อบันทึกเสร็จแล้ว
การจัดทำความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศในนามของมหาวิทยาลัยและคณะสงฆ์ลาวที่ดำเนินการร่วมกันมาให้เข้มแข็งมากขึ้น การประชุมครั้งนี้ยังจะเป็นการส่งเสริมวิสัยทัศน์และอัตลักษณ์อาเซียนภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ประเทศสมาชิกอาเซียนนำมาเป็นหลักในการพัฒนาร่วมกันด้วย
Connect with us, Connect the world
#ASCNEXT 2023 moving to centre of the PEOPLE
___
Website: http://asc.mcu.ac.th
Facebook : Mcu Asean
Twitter : ascmcu
IG: ascmcu